บรรจุหัวใจขุนรองปลัดชู

ในเวลา 12 ปีต่อมา

มาเป็นแห่งที่สอง
ที่หาดหว้าขาว อ่าวน้อย เมืองประจวบคีรีขันธ์
กว่าจะเป็นรูปธรรมของวีรชนอาสา
ของคนกล้า ของกองรบคนสามัญ ของชาวบ้าน
ของคนถูกลืม

ที่มีประวัติ มีปาฏิหาริย์ มีอุปสรรค มีภาระอันมาก
กว่าจะทำให้เกิดอนุสาวรีย์ขึ้นในหัวใจ นายอนุชนในคนรุ่นหลัง ไม่ใช่เพียงแต่การรับรู้ หรือยอมรับต่อวีรกรรม
อันอาจหาญของนักรบอาสากองอาทมาต ทุกคนเท่านั้น
หากแต่หมายถึงการเอาความดีงามจากหัวใจของเหล่าวีรชนคนกล้านั้นมาใส่ไว้ในหัวใจของคนไทยเราทุกคน
และฝากฝังไว้กับหมู่อนุชนคนรุ่นหลังต่อไป

ในการนี้
ความคิดในที่นี้คือแนวคิด จิตวิญญาณ สิ่งยึดมั่น
มโนปณิธาน การรบ การเป็นนักรบผู้เสียสละชีวิต
รวมทั้งสิ่งตกทอดอันร่วมสมัยตลอดมา
และร่วมสมัยเสมอไป
จากการร่วมสมัยในพงศาสดารสองบรรทัด
จากการร่วมสมัยยุคประวัติศาสสากล
โดยหลวงวิจิตรวาทการได้กล่าวถึงฉากอวสาน
ของกรุงศรีอยุธนาที่น่าสังเวชสลดใจ

“….ทหารจริงๆเพียง 400 นาย คือพวกขุนรองปลัดชู
อาสาสมัครชาวบ้านนักรบกองอาทมาต เข้าตะลุมบอน
รบเพื่อช่วยชาติบ้านเมือง รบโดยไม่ทิ้งหน้าที่
แต่เลือกที่จะทิ้งชีวิต อย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ
เพื่อประวิงเวลาการเคลื่อนทัพ
และตัดการได้เปรียบของข้าศึกใให้มากที่สุด
ในกาละนั้นดูเหมือนว่า จะเป็นจำพวกตายเปล่า
ไม่ได้รับการยกย่องแต่อย่างใด….”

ทว่าความพ่ายแพ้ที่มิหวาดหวั่นนั้น
คือชัยชนะที่แท้จริง
คือชนะใจอย่างร่วมสมัยตลอดมา
มาถึงวันนี้เงาร่างปฏิมากรนักรบกล้าขุนรองปลัดชู
พร้อมนักรบวีรชน 400 นาย
ปรากฏเป็นพยานขึ้นอีกครั้งแล้ว
ชีวิตอย่างขุนรองปลัดชู
พร้อมกองอาทมาตอาสารบ 400 นาย
กหล่อหลอมด้วยหลักคุณธรรมจากคติของพระพุทธศาสนาตราบไดมือกุมอาวุธ ใจแบกรับภาระของมโนปณิธานเอาใว้ได้แต่ลุกขึ้นปกป้องผู้อ่อนแอกว่า ด้วยกรุณาอาทร
และใส่ใจเสียสละตนเพื่อแผ่นดิน เพื่อมาตุภูมิ เพื่อปฏิรูปเทศ
ด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวและปริจาคะ สามัคคีเป็นที่สุด

ค่านิยมดังนี้ต่างหากที่พวกเราผู้อนุชนจะต้องต่อยอดจิตวิญญาณด้วยการบำเพ็ญกิจของตนแต่ละคน แต่ละหน้าที่แต่ละบทบาท ด้วยความสัตย์ซื่อถือคุณธรรม อดทนกล้าหาญขยันหมั่นเพียรอาทรเกื้อกูลเสียสละอุทิศตนเพื่อเป็นพลีรีบูชาแด่บรรพบุรุษผู้ก่อสร้างชาติบ้านเมือง

คือแผ่นดินไทยนี้สืบมา
257 ปีขุนรองปลัดชู มาปรากฏให้เห็น
ท่านไม่ได้มาทวงความยุติธรรม
ท่านไม่ได้มาทวงอนุสาวรีย์

ท่านไม่ได้มาทวงบาปบุญคุณโทษจากใคร
ต่อท่านกลับมาบอกให้คนไทยทุกหมู่เหล่า
รักสามัคคี
ให้เข้าใจจริงๆในจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย
อย่าให้ชีวิตกลวงเปล่า ไร้ประโยชน์ ไร้คุณค่าและไร้รากเหง้า
เลือดเนื้อ ลมหายใจ และจิตวิญญาณของคนสามัญ
ของนักรบชาวบ้านจะเป็นพลานุภาพอันบริสุทธิ์
อันไพบูลย์และอันทรงฤทธานุภาพยิ่งขึ้นสืบไป

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *